วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

+ เหตุผลหลายๆประการ..ของผู้หญิงหลายใจ +

เหตุผลหลายๆประการ..ของผู้หญิงหลายใจ


คำว่า ผู้หญิงหลายใจ คงไม่รื่นหูนักเมื่อได้ยินจากปากหลายๆ คน เอ่ยถึงผู้หญิงที่คบผู้ชายไม่เลือกหน้า แต่พวกเขาจะรู้ไหมนะว่า ผู้หญิงหลายใจเหล่านั้นก็มีเหตุผลต่างๆ ที่น้อยคนนักจะรับรู้ได้ อาทิ


1. ไม่มีเวลาให้กับความผูกพันที่ลึกซึ้งส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงที่ชื่นชอบกับการคบใครหลายๆ คน มักจะมีภาระหนักๆ ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป้นเรื่องงานที่ท่วมหัว หรือใช้เวลาอยู่กับเพื่อนฝูงและครอบครัวมากกว่าที่จะทุ่มเทชีวิตให้แก่ผู้ชายคนใดคนหนึ่ง ผู้หญิงเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์แค่ผิวเผินกับผู้ชาย เพื่อที่จะหาโอกาสง่ายๆ ที่จะผละพวกเขาทิ้งเสียเมื่อไม่ต้องการ แค่เพียงหนึ่งคืนก็เพียงพอแล้วกับการออกเดทกับผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นอาหารมื้อเย็นที่ร้านหรูๆ สักแห่ง ฟังเพลงเพราะๆ แล้วก็จบด้วยการมีเซ็กซ์กับเขาเพียงแค่ข้ามคืน เหตุที่ผู้หญิงเหล่านี้ชอบทำแบบนี้ก็เพื่อไม่ต้องการรับรู้นิสัยที่ไม่เอาไหนของผู้ชายที่จะเกิดขึ้น หลังจากมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับพวกเขาแล้ว

2. กลัวการผูกมัดผู้หญิงหลายคนที่กลัวการผูกมัด เมื่อต้องคบกับผู้ชายคนใดคนหนึ่ง เพราะการที่จะคบใครจริงจังต้องมีความเสียสละสูง และการที่ต้องเสียสละนี้เองที่ทำให้ผู้หญิงหลายคน ทำไม่ได้ และอีกประการหนึ่งคือ ความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นจากการเสียสละของผู้หญิงเหล่านั้น และได้รับผลตอบแทนอันเจ็บปวดจากผู้ชายคนเก่าของพวกเธอ ทำให้พวกเธอกลัวที่จะเสียความรู้สึกรักนี้ให้ใครอีกครั้งหนึ่ง

3. เป็นกิจกรรมที่คิดว่าน่าสนุกเซ็กซ์ย่อมคู่กับความสนุก สุข สมหวัง จนมีผู้หญิงหลายคนที่คิดเพียงว่า มีเซ็กซ์เพราะชื่นชอบลีลา ท่าทางของการมีเซ็กซ์เท่านั้น แต่ไม่ได้ชื่อชอบผู้ชายที่พวกเธอกำลังจะมีเซ็กซ์ด้วยอยู่เลยแม้แต่น้อย

4. เพื่อการแก้แค้นแน่นอนว่าเมื่อผู้หญิงได้รับความเจ็บปวดจากการทอดทิ้งของผู้ชาย ผู้หญิงบางคนก็จะเศร้าสลด และเก็บตัวเงียบไม่ยอมสุงสิงกับใคร แต่กับอีกบางคนที่ลุกขึ้นมาเพื่อฮึดสู้เพื่อแก้แค้นผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตให้เจ็บปวดเหมือนเธอ ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดการคบผู้ชายไม่เลือกหน้า เพื่อสลัดรักเขา แต่ยิ่งพวกเธอทำให้ผู้ชายเจ็บผวดเท่าไหร่ ความเจ็บปวดนั้นกลับยิ่งทวีคูณให้แก่พวกเธอมากเท่านั้น แทนที่จะเป็นผลเสียให้แก่ผู้ชาย กลับกลายเป็นว่าผู้ชายทั้งหลายกับโปรดปรานการประชดประชันแบบนี้ของผู้หญิง

5. เพื่อลืมอดีตที่แสนหวานเป็นเรื่องจริง เมื่อผู้หญิงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับชายใดแล้ว แต่ภายหลังกลับถูกทิ้งอย่างไม่มีเยื่อใย พวกเธอจึงกลัวที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่ก็ไม่กล้าที่จะไปมีความผูกพันแบบลึกซึ้งกับผู้ชายคนไหนอีก จึงเป็นเหตุให้ผู้หญิงเหล่านี้กล้าที่จะลองคบกับผู้ชายหลายๆ คน เพื่อแก้เหงา และลืมคนเก่าไปได้

6. สุดท้ายที่ผู้หญิงเหล่านั้น พูดปฎิเสธไม่เป้นหากผู้ชายมีถ้อยคำหวานๆ แสดงความสุภาพกับผู้หญิง ยากนักที่ผู้หญิงจะกล้าปฎิเสธได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนสนิท เพื่อน หรือแม้แต่เจ้านาย เมื่อพวกเธอหลวมตัวออกเดทกับหนุ่มประเภทนี้แล้ว น้อยนักที่จะปฎิเสธการมีเซ็กซ์กับพวกเขาได้และอีกหลายๆ เหตุผล ที่ผู้หญิงหลายคนเลือกที่จะคบกับผู้ชายหลายคนไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้คิดจะยึดติดกับใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมปัจจุบัน จนเป็นเหตุให้เธอลืมนึกถึงความรู้สึกที่แท้จริงของผู้หญิงว่า ต้องการทะนุถนอมจากผู้ชายที่เธอรักมากที่สุดแค่คนเดียวเป็นเช่นไร .....

วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ จากนายกรัฐมนตรีในปีต่างๆ ในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เห็นคุณค่าความสำคัญ ของเด็กจึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคิด สำหรับเด็ก นายกรัฐมนตรี ในสมัยต่อๆมา จึงได้ถือปฎิบัติสืบต่อมาดังต่อไปนี้ พ.ศ.2499 - จอมพล ป.พิบูลสงคราม - จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม พ.ศ.2502 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า

พ.ศ.2503 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด
พ.ศ.2504 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย
พ.ศ.2505 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด พ.ศ.2506 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด พ.ศ.2507 - งดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ.2508 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี พ.ศ.2509 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี
พ.ศ.2510 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย
พ.ศ.2511 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง
พ.ศ.2512 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ
พ.ศ.2513 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส พ.ศ.2514 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ
พ.ศ.2515 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ พ.ศ.2516 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ
พ.ศ.2517 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ - สามัคคีคือพลัง
พ.ศ.2518 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ - เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี พ.ศ.2519 - หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช - เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้
พ.ศ.2520 - นายธานินทร์ กรัยวิเชียร - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย พ.ศ.2521 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ พ.ศ.2522 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - เด็กไทยคือหัวใจของชาติ พ.ศ.2523 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
พ.ศ.2524 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม พ.ศ.2525 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย พ.ศ.2526 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม พ.ศ.2527 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา
พ.ศ.2528 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม พ.ศ.2529 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ.2530 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม พ.ศ.2531 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ.2532 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ.2533 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม พ.ศ.2534 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา
พ.ศ.2535 - นายอานันท์ ปันยารชุน - สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม
พ.ศ.2536 - นายชวน หลีกภัย - ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2537 - นายชวน หลีกภัย - ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2538 - นายชวน หลีกภัย - สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2539 - นายบรรหาร ศิลปอาชา - มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด
พ.ศ.2540 - พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ - รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด
พ.ศ.2541 - นายชวน หลีกภัย ขยัน - ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย พ.ศ.2542 - นายชวน หลีกภัย ขยัน - ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
พ.ศ.2543 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
พ.ศ.2544 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
พ.ศ.2545 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส
พ.ศ.2546 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี
พ.ศ.2547 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน
พ.ศ.2548 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด
พ.ศ.2549 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
พ.ศ.2550 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ - มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข
พ.ศ.2551 - พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ - สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม
พ.ศ.2552 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี