วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552

** 141 ที่สุดของโลก **

141 ที่สุดของโลก

1.ทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทวีปเอเซีย
2.ทวีปที่เล็กที่สุดในโลก - ทวีปออสเตรเลีย
3.คาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก - คาบสมุทรอาหรับ
4.มหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก - มหาสมุทรแปซิฟิก
5.มหาสมุทรที่เล็กที่สุดในโลก - มหาสมุทรแอนตาร์กติก
6.ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลจีนใต้
7.ทะเลส่วนที่ลึกที่สุดในโลก - บริเวณChallenger ใกล้เกาะมาเรียนา ในมหาสมุทรแปซิฟิก
8.ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลสาบสุพีเรีย อยู่ระหว่างสหรัฐอเมริกา กับแคนาดา
9.ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลสาบแคสเปียน อยู่ระหว่างทางใต้ของรัสเซียกับอิหร่าน
10.ทะเลสาบที่มีน้ำเค็มที่สุดในโลก - ทะเลสาบเดดซี อยู่ระหว่างอิสราเอลกับจอร์แดน
11.ทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดในโลก - ทะเลสาบไบคาล ในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย
12.ทะเลสาบที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก - ทะเลสาบกัลลาเซียล ในธิเบต
13.ทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลสาบมืด เหนือเขื่อนระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซนา
14.อ่าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก - อ่าวเม็กซิโก
15.ปากแม่น้ำที่กว้างที่สุดในโลก - ปากแม่น้ำออฟเฟน โพรเซ็น อ๊อป ประเทศรัสเซีย
16.แม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก - แม่น้ำไนล์ ทวีปแอฟริกา
17.แม่น้ำที่สั้นที่สุดในโลก - แม่น้ำดี ริเวอร์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา
18.แม่น้ำที่กว้างที่กว้างที่สุดในโลก - แม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้
19.แม่น้ำที่เกิดอุทกภัยมากที่สุดในโลก - แม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำวิปโยค ประเทศจีน
20.คลองธรรมชาติที่ยาวที่สุดโลก - คลองยุ่นโห ประเทศจีน
21.คลองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก - คลองสุเอช
22.หมู่เกาะที่มีเกาะต่างๆอยู่หนาแน่นที่สุด - หมู่เกาะอินดีส
23.ช่องแคบที่ยาวที่สุดในโลก - ช่องแคบตาต้า
24.เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก - เกาะกรีนแลนด์ มหาสมุทรอาร์คติค
25.ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก - ยอดเขาเอเวอเรสต์
26.เทือกเขาที่ยาวที่สุดในโลก - เทือกเขาแอนดีส ทวีปอเมริกาใต้
27.ช่องแคบระหว่างภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ช่องแคบบนแกรนด์ แคนยอน รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
28.ยอดภูเขาไฟที่สวยและสูงที่สุดในโลก - ภูเขาไฟฟูจิยามา ประเทศญี่ปุ่น
29.ทะเลทรายที่ใหญ่และร้อนที่สุด - ทะเลทรายซาฮาร่า ในแอฟริกาเหนือ
30.น้ำตกที่มีทัศนียภาพสวยงามและใหญ่ที่สุดในโลก - น้ำตกไนแองการา อยู่ระหว่างสหรัฐอเมริกา และแคนาดา
31.น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก - น้ำตกแองเจิล ประเทศเวเนซูเอลา
32.ประเทศที่มีเนื้อที่มากที่สุดในโลก - ประเทศรัสเซีย
33.ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก - นครรัฐวาติกัน
34.ประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุด - ประเทศจีน
35.เมืองที่มีพลเมืองมากที่สุด - โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
36.ประเทศที่มีพลเมืองน้อยที่สุด - นครรัฐวาติกัน
37.ประเทศที่มีเกาะมากที่สุด - ฟิลิปปินส์
38.ประเทศที่มีทะเลสาบมากที่สุด - ฟินแลนด์
39.ประเทศที่มีภูเขาไฟมากที่สุด - อินโดนีเซีย
40.ประเทศที่อยู่สูงที่สุด - ธิเบต
41.ประเทศที่มีพื้นที่ต่ำที่สุด - อิสราเอล
42.ประเทศที่มีแผ่นดินไหวบ่อยที่สุด - ประเทศญี่ปุ่น
43.ประเทศที่มีภาษามากที่สุด - ประเทศอินเดีย
44.ประเทศที่มีเมืองขึ้นมากที่สุด - อังกฤษ
45.เมืองที่มีคลองมากที่สุด - เวนิส ประเทศอิตาลี
46.ประเทศที่ขุดแร่ดีบุกมากที่สุด - มาเลเซีย
47.ประเทศที่ปลูกกาแฟมากที่สุด - บราซิล
48.ประเทศที่ผลิตกระดาษมากที่สุด - แคนาดา
49.ประเทศที่ขุดเพชรได้มากที่สุด - สหภาพแอฟริกาใต้
50.ประเทศที่มีแร่เงินมากที่สุด - เม็กซิโก
51.ประเทศที่มียางพารามากที่สุด - มาเลเซีย
52.ประเทศที่มีทับทิมมากที่สุด - พม่า
53.ประเทศที่มีทองคำขาวมากที่สุด - สหภาพโซเวียตรัสเซีย
54.ประเทศที่มีแร่พลวงมากที่สุด - สาธารณรัฐประชาชนจีน
55.ประเทศที่ขุดสินแร่อลูมิเนียมได้มากที่สุด - สวิสเซอร์แลนด์
56.ประเทศที่ผลิตหินอ่อนมากที่สุด - อิตาลี
57.ประเทศที่ผลิตแร่ปรอทได้มากที่สุด - สเปน
58.ประเทศที่มีถ่านหินมากที่สุด - สหรัฐอเมริกา
59.ประเทศที่มีแมงกานีสมากที่สุด - อินเดีย
60.ประเทศที่ประดิษฐ์และส่งดาวเทียมประเทศแรก - สหภาพโซเวียตรัสเซีย
61.ประเทศที่ส่งมนุษย์อวกาศไปดวงจันทร์ได้สำเร็จประเทศแรก - สหรัฐอเมริกา
62.ประเทศที่จับปลาได้มากที่สุดในโลก - ญี่ปุ่น
63.ประเทศที่มีฟยอร์ดมากที่สุดในโลก - นอร์เวย์
64.ประเทศที่ผลิตเหล้าองุ่นมากที่สุด -ฝรั่งเศส
65.ประเทศที่ผลิตเบียร์มากที่สุด - เยอรมนี
66.ประเทศที่ปลูกอ้อยมากที่สุด - คิวบา
67.ประเทศที่มีต้นควินินมากที่สุด - อินโดนีเซีย
68.ประเทศที่ปลูกข้าวสาลีมากที่สุด - รัสเซีย
69.ประเทศที่ปลูกชามากที่สุด - สาธารณรัฐประชาชนจีน
70.ประเทศที่ปลูกฝ้ายมากที่สุด - สหรัฐอเมริกา
71.ประเทศที่มีข้าวเจ้าพันธุ์ดีที่สุด - ไทย
72.ประเทศที่มีแร่เหล็กมากที่สุด - สวีเดน
73.ประเทศที่เลี้ยงไหมมากที่สุด - จีน
74.ประเทศที่ผลิตนมมากที่สุด - สวิสเซอร์แลนด์
75.ประเทศที่ปลูกสับปะรดมากที่สุด - เกาะฮาวาย สหรัฐอเมริกา
76.ประเทศที่ปลูกส้มมากที่สุด - รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
77.ประเทศที่ผลิตพรมได้มากและคุณภาพดีที่สุด - เปอร์เซีย
78.ประเทศที่ขุดน้ำมันดิบส่งออกมากที่สุด - ซาอุดิอาระเบีย
79.ชาติที่ประดิษฐ์เข็มทิศใช้ในการเดินเรือเป็นชาติแรก - จีน
80.บัตรอวยพรอะไรที่มีเป็นอย่างแรก - บัตรอวยพรวันวาเลนไทน์
81.ศาสนาที่มีคนนับถือมากที่สุด - ศาสนาคริสต์
82.ศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด - ศาสนาฮินดู
83.กำแพงที่ยาวที่สุด - กำแพงเมืองจีน
84.วัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - นครวัต ประเทศกัมพูชา
85.โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก - โรงแรมลาสเวกัส ฮิลตัน รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
86.ตึกที่สูงที่สุดในโลก - ตึกเบิร์จดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

87.ป่าที่ใหญ่ที่สุด - ป่ามหาวัน ประเทศอินเดีย
88.สะพานที่ยาวที่สุด - สะพานเซคอนด์ เลค พอนซาเทรน คอสเวย์ อยู่ที่ลอสแองเจลลิส สหรัฐอเมริกา
89.สะพานที่กว้างที่สุด - สะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์
90.สะพานแขวนที่ยาวที่สุด - สะพานพระราม9 กรุงเทพมหานคร
91.ทางรถไฟที่ยาวที่สุด - ทรานส์ไซบีเรีย
92.อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุด - อุโมงค์ซิมพลอน
93.สถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุด - สถานีแกรนด์ เซนทรัล เทอร์มินอล
94.ถนนที่ยาวที่สุด - ถนนแพน-อเมริกัน ไฮเวย์
95.เครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุด - เครื่องบิน AIRBUR A380
96.เรือเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุด - เรือควีน อลิซาเบธ
97.เรือบรรทุกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด - เรือซีวีส ไจเอ้น
98.ป่าที่ทึบที่สุดในโลก - ป่าเซลวาส ลุ่มแม่น้ำอเมซอน
99.ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุด - ต้นซานตา มาเรีย เด็ล ตูลี ในเม็กซิโก
100.ต้นไม้ที่อายุยืนที่สุดในโลก - ต้นสนPinus longaeva รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
101.ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก - Arnold ’s Rafflesia เกาะสุมาตรา
102.ปิรามิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ปิรามิดQuetzalcoatl
103.คุกที่แข็งแรงที่สุด - คุกอัลคาตราส ในซานฟรานซิสโก
104.จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุด - จตุรัสเทียนอันเหมิง ปักกิ่ง
105.สิ่งก่อสร้างที่สวยงามที่สุด - สุสานหินอ่อนทัชมาฮาล เมืองอักรา ประเทศอินเดีย
106.ประเทศที่มีชื่อเสียงในการทำนาฬิกา - สวิสเซอร์แลนด์
107.ระฆังใบใหญ่ที่สุด - ระฆังซาร์โคโลโคล อยู่ที่ปราสาทอิวานเวลิกี้ พระราชวังเครมลิน มอสโคว สหภาพโซเวียต
108.เพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในโลก - เพชรคุลลินาน
109.หอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ในกรุงวอชิงตัน
110.นาฬิกาเรือนใหญ่ที่สุดในโลก - นาฬิกาบิกเบน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
111.ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด - ดาวศุกร์
112.ดาวฤกษ์ดวงไหนมีแสงสว่างมากที่สุด - ดาวซิริอัส(Sirius) มีสีเขียวแกมน้ำเงิน
113.นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก - นางศิริมาโว บันดาราไนยเก ประเทศศรีลังกา
114.มนุษย์อวกาศคนแรกของโลก - ยูริ กาการิน ชาวรัสเซีย
115.มนุษย์อวกาศหญิงคนแรกของโลก - วาเลนตินา วลาดิมิโรฟนา เทเรสโกวา ชาวรัสเซีย
116.ผู้ที่เดินเรือรอบโลกเป็นคนแรก - แม็คเจลแลน
117.สัตว์ที่มีจำนวนมากที่สุด - แมลง
118.สัตว์ที่มีอายุยืนที่สุด - เต่าทะเล
119.สัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด - ช้าง
120.สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุด - ปลาวาฬ
121.นกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด - นกกระจอกเทศ
122.สัตว์ที่มีเสียงดังที่สุด - ปลาวาฬสีน้ำเงิน
123.สัตว์ที่เตลื่อนที่ได้เร็วที่สุด - เหยี่ยวฟิรีกริน
124.สัตว์ที่เคลื่อนที่ได้ช้าที่สุด - ปู ในบริเวณทะเลแดง
125.นกที่มีอายุยืนที่สุด - กา
126.นกที่ตัวเล็กที่สุด - นกฮัมมิ่ง
127.นกที่บินเร็วที่สุด - นกอินทรี
128.นกที่มองได้ไกลที่สุด - เหยี่ยว
129.นกที่ตาไวที่สุด - แร้ง
130.สัตว์ที่สายตาสั้นและดุร้ายที่สุด - แรด
131.ปลาที่ร้ายกาจที่สุด - ปิรันยา
132.ไก่ที่ไข่ดกที่สุด - ไก่พันธุ์เล็กฮอร์น
133.ธาตุที่เบาที่สุด - ธาตุไฮโดรเจน
134. เนื้อที่ : ประเทศรัสเซีย เป็นประเทศที่มี เนื้อที่มากที่สุดในโลก ประมาณ 17,075,400 ตารางกิโลเมตร เนื้อที่น้อยที่สุด คือ นครรัฐ วาติกัน มี เพียง 0.44 ตารางกิโลเมตร
135. ระดับความสูงของที่ตั้งประเทศ :ประเทศธิเบตเป็นประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก คือ สูงกว่า ระดับน้ำทะเล 12,087 ฟุต (3,626.1 เมตร) ส่วนประเทศที่ตั้งอยู่ต่ำ ที่สุด คือ ประเทศอิสราเอลบริเวณทะเล Death Sea ซึ่งต่ำกว่าระดับ น้ำทะเล 1,292 ฟุต (387.60 เมตร)
136. พรมแดนของประเทศ : ประเทศจีนมีพรมแดน ติดต่อกับ ประเทศเพื่อนบ้านมากที่สุดในโลกถึง 14 ประเทศ ส่วนพรมแดน รอยต่อประเทศที่ยาวที่สุดในโลก คือ พรมแดนระหว่างประเทศ สหรัฐอเมริกากับประเทศแคนาดา ที่ยาวถึง 3,987 ไมล์ หรือ ประมาณ 6,379 กิโลเมตร ส่วนพรมแดนที่สั้นที่สุดคือ พรมแดน ของประเทศอิตาลีกับนครรัฐวาติกัน ที่ยาวเพียง 2.53 ไมล์ หรือ ประมาณ 4.05 กิโลเมตรเท่านั้น
137. จำนวนประชากร : ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากร มากที่สุดในโลก ราว 1,178.5 ล้านคน 5. อัตราการเกิด : ประเทศมาลาวี ทวีปแอฟริกา เป็นประเทศ ที่มีอัตราการเกิดมากที่สุด คือ ร้อยละ 5.5 ส่วนนครรัฐวาติกัน มี อัตราการเกิดน้อยที่สุด คือ มีอัตราการเกิดเป็น 0
138. อัตราการตาย : ประเทศอัฟกานิสถาน เป็นประเทศที่มีอัตรา การตายมากที่สุดคือ ร้อยละ 2.2 ส่วนคูเวตมีอัตราการการตายต่ำ สุด เพียงร้อยละ 0.2 เท่านั้น
139. อายุเฉลี่ย : ประเทศที่จัดว่ามีประชากรอายุยืนที่สุด คือ ญี่ปุ่น ซึ่งมีอายุเฉลี่ย ชาย 76 ปี หญิง 82 ปี ส่วนประเทศที่ประชากรมี อายุเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ประเทศ เซียร์ราลีโอน เฉลี่ยชาย 41 ปี เฉลี่ยหญิง 45 ปี
140. ภาษาพูด : ประเทศอินเดียครองความเป็นเจ้าแห่งภาษา คือ มีภาษาพูดมากกว่า 840 ภาษา
141. เกาะ : ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีเกาะมากที่สุด ในโลก คือ ประมาณ 13,000 เกาะ




+ แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล พิษร้ายกว่างูเห่า 3 เท่า +


แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล สุดอันตราย
แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร บริเวณท้องจะโตกว่าหัวหลายเท่า ท้องจะกลมป่อง



แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลจะทำรังอยู่ที่ต่ำ สูงไม่เกิน 1 เมตร ลักษณะรังหรือใยจะยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ พบเห็นได้ตามใต้โต๊ะ เก้าอี้ รองเท้าเก่าในบ้าน


ผู้ถูกกัดจะมีอาการแพ้อย่างแรง แผลจะเหวอะหวะ และเป็นผื่นบวมแดงเจ็บปวด มีหนอง แผลจะหายช้ามาก เพราะพิษทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบน้ำเหลือง และทำลายเม็ดเลือดขาว




แมงมุมแม่หม้ายดำ เทียบกันแล้วก็น่ากลัว พิษร้ายเหมือนกัน


แมงมุมแม่หม้ายดำ กัดแล้วปล่อยพิษออกมาทั้งหมด เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ ปล่อยพิษออกมาในระดับมิลลิกรัม คือ 1 ส่วนในพันส่วน
เตือน! "แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล" พิษร้ายกว่างูเห่า3เท่า ไม่มีเซรุ่มถอนพิษอาละวาด ลุ่มเจ้าพระยา-แม่กลอง
นักวิจัยเตือนภัย "แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล" สุดอันตราย พิษร้ายแรงกว่างูเห่า 3 เท่า ยังไม่มีเซรุ่ม หรือยาถอนพิษ อาละวาดในไทยแถบชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แนะวิธีสังเกตรูปร่างลักษณะ ตัวขนาด 1 เซ็นติเมตร ท้องจะกลมป่องใหญ่กว่าหัวหลายเท่า มีสีน้ำตาลสลับขาวลายเป็นริ้วๆ ชอบแฝงตัวในที่ต่ำ ให้ระวังลูกหลาน
นายประสิทธิ์ วงษ์พรม นักวิจัยจากภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ศึกษาเรื่องแมงมุมในประเทศไทย เปิดเผยวันที่ 18 มกราคม ว่า จากการศึกษาและเก็บข้อมูลเรื่องแมงมุมในประเทศไทย พบว่าขณะนี้มีแมงมุมพิษชนิดหนึ่ง ชื่อ "แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล" ซึ่งเดิมพบแต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา แถบฟลอริดา เท็กซัส และบริเวณเขตเส้นศูนย์สูตร ปัจจุบันได้แพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยแล้ว เชื่อว่าขณะนี้แมงมุมดังกล่าวได้ขยายพันธุ์กระจายไปยังชุมชนต่างๆ รอบๆ ปากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง และอ่าวไทยตอนบนแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเจอแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลชุกชุมที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และมีรายงานมีคนถูกกัดที่นั่น แต่ยังไม่ได้ลงไปตรวจสอบความชัดเจน
นายประสิทธิ์กล่าวว่า แมงมุมชนิดนี้ มีพิษรุนแรงทำลายระบบเลือด และระบบภูมิคุ้มกัน พิษร้ายแรงกว่าพิษของแมงมุมแม่หม้ายดำ 2 เท่า และร้ายแรงกว่าพิษงูเห่า 3 เท่าทีเดียว เพียงแต่เวลาแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลกัด จะปล่อยพิษออกมาไม่หมด ความร้ายแรงอาจจะไม่เท่าแม่หม้ายดำ เพราะแม่หม้ายดำ หรืองูเห่า กัดแล้วปล่อยพิษออกมาทั้งหมด เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ หากโดนงูเห่า หรือแม่หม้ายดำกัด จะปล่อยพิษออกมาในระดับมิลลิกรัม คือ 1 ส่วนในพันส่วน แต่แม่หม้ายน้ำตาลจะปล่อยพิษออกมาในระดับ ppm คือ 1 ส่วนในล้านส่วน อย่างไรก็ตาม หากถูกกัดหลายตัวพร้อมกันปริมาณพิษก็จะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
นายประสิทธิ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับลักษณะทั่วไปของแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลนั้น พบว่าขนาดของตัวมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร บริเวณท้องจะโตกว่าหัวหลายเท่า ท้องจะกลมป่อง ด้านล่างมีลักษณะคล้ายรูปนาฬิกาทรายสีส้ม ด้านบนมีสีน้ำตาลสลับขาวลายเป็นริ้วๆ มีจุดสีดำสลับขาวตรงท้องข้างละ 3 จุด รวมเป็น 6 จุด วางไข่ครั้งละ 200-400 ฟอง
สาเหตุการแพร่ระบาดนั้น คาดว่าจะเข้ามากับเรือสินค้าเป็นหลัก และมีรายงานด้วยว่า มีพ่อค้าบางคนนำมาขายให้คนที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลก โดยไม่รู้ว่าเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรง ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่า มีผู้เสียชีวิตจากการถูกแม่หม้ายน้ำตาลกัด แต่มีรายงานการถูกกัดแล้วจากหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่ผู้ถูกกัดจะมีอาการแพ้อย่างแรง แผลจะเหวอะหวะ และเป็นผื่นบวมแดงเจ็บปวด มีหนอง แผลจะหายช้ามาก เพราะพิษทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบน้ำเหลือง และทำลายเม็ดเลือดขาว คนที่ถูกกัดส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าแผลดังกล่าวเกิดจากอะไร ขณะนี้ ยังไม่มีเซรุ่ม หรือยาถอนพิษ ทำได้แค่รักษาตามอาการเท่านั้น ยังโชคดีว่า แมงมุมชนิดนี้ไม่มีนิสัยดุร้าย ไม่โจมตีหรือบุกกัดใครอย่างไม่มีเหตุผล จะหลบมากกว่าสู้ และจะกัดเมื่อถูกรุกรานที่อยู่เท่านั้น
นักวิจัยแมงมุมให้ข้อสังเกตความแตกต่างระหว่างแมงมุมทั่วไปกับแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลว่า นอกจากลักษณะลำตัวแล้ว ให้สังเกตลักษณะการทำรัง หรือการชักใย แมงมุมทั่วไปจะชักใยค่อนข้างสวยงามเป็นระเบียบ และชักใยอยู่ที่สูง เช่น ตามขื่อ ตามคาน หรือหลังคาบ้าน แต่แม่หม้ายน้ำตาลจะทำรังอยู่ที่ต่ำ สูงไม่เกิน 1 เมตร ลักษณะรังหรือใยจะยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ พบเห็นได้ตามใต้โต๊ะ เก้าอี้ รองเท้าเก่าในบ้าน ที่น่าเป็นห่วงคือ เด็กๆ ที่ชอบคลานเข้าไปอยู่ตามซอกมุมบ้าน หากไปเจอแมงมุมชนิดนี้อาจจะถูกกัด และตกอยู่ในอันตรายได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลในเชิงลึก รวมทั้งเรื่องการกระจายพันธุ์ จึงขอความร่วมมือ สำหรับผู้พบเห็นแมงมุมที่มีลักษณะดังกล่าว ขอความกรุณาแจ้งมายังภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ด้วย









วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552

.+. United Nations .+.


สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น (United Nations - UN) เป็นองค์การระหว่างประเทศที่ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2488 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นองค์การระหว่างประเทศที่กำเนิดขึ้นเป็นองค์การที่สองในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ต่อจากสันนิบาตชาติ ปัจจุบันสหประชาชาติมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 192 ประเทศ (เกือบทุกประเทศในโลก) จุดประสงค์คือการนำทุกชาติทั่วโลกมาทำงานร่วมกันเพื่อสันติภาพและการพัฒนาโดยอยู่บนหลักพื้นฐานของความยุติธรรม ศักดิ์ศรีของมนุษย์ และความกินดีอยู่ดีของทุกคน นอกจากนี้ยังให้โอกาสประเทศต่าง ๆ สร้างดุลแห่งการพึ่งพาอาศัยกันและรักษาผลประโยชน์ชาติในกรณีที่เกิดปัญหาระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม มนุษยธรรม ให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชน และเป็นศูนย์กลางในการร่วมมือกันเพื่อเป้าหมายต่าง ๆ
จากจุดเริ่มต้นที่สหประชาชาติกำเนิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สองโดยฝ่ายพันธมิตรผู้ชนะสงคราม ทำให้โครงสร้างขององค์การสะท้อนถึงสภาวะในขณะที่ก่อตั้ง สหประชาชาติมีสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงอยู่ 5 ประเทศ อันประกอบด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน (แทนที่สาธารณรัฐจีน) ฝรั่งเศส รัสเซีย (แทนที่สหภาพโซเวียต) สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา สมาชิกถาวรทั้ง 5 ชาติมีอำนาจยับยั้งในมติใด ๆ ก็ตามขององค์การความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอมีผลกระทบต่อการตอบสนองและการตัดสินใจของสหประชาชาติ ความตึงเครียดในสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตส่งผลต่อการดำเนินงานของ
องค์การในช่วง 45 ปีแรกหลังการก่อตั้ง เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองผ่านพ้นไป การปลดปล่อยอาณานิคมในทวีปแอฟริกา เอเชีย และตะวันออกกลาง ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ ทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
ระบบสหประชาชาติอยู่บนพื้นฐานของ 6 องค์กรหลัก ได้แก่ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีภาวะทรัสตีแห่งสหประชาชาติ สำนักงานเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีองค์กรอื่น ๆ อีกเช่น องค์การอนามัยโลก ยูเนสโก และยูนิเซฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มักเป็นที่รู้จักและปรากฏตัวต่อสาธารณชนคือเลขาธิการสหประชาชาติ ปัจจุบันผู้ดำรงตำแหน่งนี้ คือ นายปัน กี มุน ชาวเกาหลีใต้ เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 ต่อจากโคฟี อันนัน



ภูมิหลัง
ก่อนที่สหประชาชาติจะถือกำเนิดขึ้น มีความพยายามรวมกลุ่มกันของชาติต่าง ๆ ทันทีหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งยุติลงโดยใช้ชื่อว่าสันนิบาตชาติซึ่งเกิดขึ้นจากสนธิสัญญาแวร์ซาย เป็นเพราะประชาชนจำนวนมากในฝรั่งเศส แอฟริกาใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าองค์กรโลกที่ประกอบด้วยชาติต่าง ๆ จะสามารถรักษาสันติภาพและป้องกันความน่าสะพรึงกลัวของสงครามอย่างที่เกิดในยุโรปช่วงปี พ.ศ. 2457-2461เบื้องต้นสันนิบาตชาติมีสมาชิก 42 ประเทศโดยมีประเทศที่ไม่ได้อยู่ในยุโรปถึง 26 ประเทศ จุดหมายหลักของสันนิบาตชาติมี 2 ประการ คือ พยายามธำรงรักษาสันติภาพ แก้ปัญหากรณีพิพาทต่าง ๆ โดยอาศัยการเจรจาไกล่เกลี่ยและอาจใช้วิธีคว่ำบาตรหรือกำลังทหารถ้าจำเป็น กล่าวอีกนัยหนึ่งว่าป้องกันสมาชิกจากการรุกราน ประการที่สองคือส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรฐกิจและสังคม แต่การอุบัติขึ้นของสงครามโลกครั้งที่สองแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของสันนิบาตชาติซึ่งไม่มีกำลังทหารเป็นของตนเอง ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากประเทศสมาชิก ขณะที่ประเทศสมาชิกเองก็ไม่เต็มใจที่จะใช้มาตรการต่าง ๆ นอกจากนี้ประเทศมหาอำนาจหลายชาติก็ไม่ได้ให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง สันนิบาตชาติจึงถูกล้มเลิกในปี พ.ศ. 2489



สำนักงานใหญ่



อาคารสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ก่อสร้างขึ้นบนที่ดินใกล้แม่น้ำอีสต์ในนครนิวยอร์ก เมื่อพ.ศ. 2492-2493 บริจาคโดยจอห์น ดี. รอกกีเฟลเลอร์ จูเนียร์ ด้วยมูลค่า 8.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และออกแบบโดยออสการ์ นีไมเออร์ สถาปนิกชาวบราซิล สำนักงานใหญ่สหประชาชาติเปิดทำการเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2494 นอกจากนี้ยังมีสำนักงานตัวแทนที่สำคัญตั้งอยู่ในนครเจนีวา นครเฮก กรุงเวียนนา กรุงโคเปนเฮเกน ฯลฯ
สหประชาชาติมีธง ที่ทำการไปรษณีย์ และดวงตราไปรษณียากรของตนเอง ภาษาทางการที่ใช้มีอยู่ 6 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย จีน และภาษาอาหรับ(เพิ่มมาในปี พ.ศ. 2516) ส่วนคณะมนตรีนั้นใช้ 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติจะประชุมกันที่สมัชชาใหญ่ซึ่งอาจเปรียบได้กับรัฐสภาของโลก ไม่ว่าประเทศจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก ร่ำรวยหรือยากจน ต่างมีสิทธิออกเสียงได้เพียงเสียงเดียว แม้ว่าคำตัดสินของสมัชชาใหญ่มิได้ถือเป็นข้อผูกมัดแต่ก็เป็นมติที่มีน้ำหนักเท่ากับเป็นความเห็นของรัฐบาลโลก



ประวัติ
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2486 (ค.ศ. 1943) เริ่มมีแนวคิดก่อตั้งสหประชาชาติในระหว่างการประชุมของฝ่ายพันธมิตร โดยมีความชัดเจนมากขึ้นเมื่อ แฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และวินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลงนามในกฎบัตรแอตแลนติก ทั้งสองเป็นผู้เริ่มใช้คำว่า สหประชาชาติ (United Nations) และใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2485 (ค.ศ. 1942) หลังจาก 26 ประเทศลงนามในปฏิญญาสหประชาชาติ จากนั้นฝ่ายพันธมิตรจึงเรียกกองกำลังที่ร่วมมือกันต่อต้านเยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่นว่า "United Nations Fighting Forces"
วันที่ 27 สิงหาคม - 7 ตุลาคม พ.ศ. 2487 (ค.ศ. 1944) ตัวแทนจากฝรั่งเศส สาธารณรัฐจีน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียต ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อวางแผนการก่อตั้งสหประชาติที่ดัมบาตันโอกส์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. การประชุมครั้งนั้นและต่อ ๆ มา ทำให้เกิดรากฐานความร่วมมือกันระหว่างประเทศเพื่อนำไปสู่สันติภาพ ความมั่นคง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคม โดยแผนเหล่านี้ได้ผ่านการถกเถียงอภิปรายจากรัฐบาลและประชาชนจากทั่วโลก
เมื่อใกล้สิ้นสุดสงคราม การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยองค์การระหว่างประเทศ (United Nations Conference on International Organization -- UNCIO) เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) ที่นครซานฟรานซิสโก ตัวแทนจาก 50 ประเทศได้ลงนามในกฎบัตรสหประชาชาติเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ยกเว้นโปแลนด์ที่ไม่สามารถส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมได้แต่ได้รับการพิจารณาให้เป็นสมาชิกดั้งเดิม รวมเป็น 51 ประเทศ แม้สันนิบาตชาติจะถูกล้มเลิกไป แต่อุดมการณ์ส่วนใหญ่และโครงสร้างบางประการได้ถูกกำหนดไว้ในกฎบัตรโดยได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับโลกใหม่ที่ซับซ้อนมากขึ้น หลังจากกฎบัตรผ่านการลงนามจากสมาชิก สหประชาชาติจึงได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการเมื่อกฏบัตรมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945)
เดิมสหประชาชาติใช้ชื่อเต็มในภาษาอังกฤษว่า United Nations Organization หรือ UNO แต่มักถูกเรียกว่า United Nations หรือ UN นับจากทศวรรษ 1950



ภารกิจ
รักษาสันติภาพและความมั่นคง
ภารกิจหลักของสหประชาชาติคือการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เมื่อเกิดกรณีพิพาทระหว่างประเทศ หน้าที่ของสหประชาชาติคือให้คณะมนตรีความมั่นคงเข้าไปแทรกแซงโดยเปิดการเจรจาระหว่างคู่กรณีเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ทำความตกลงระงับความขัดแย้งอย่างสันติ ระหว่างการเจรจาคณะมนตรีความมั่นคงจะพิจารณาว่าความขัดแย้งดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสันติภาพและความมั่นคงของโลกหรือไม่ และอาจเสนอแนะแนวทางต่าง ๆ เพื่อหาทางออกหากการเจรจาไม่เป็นผลและเกิดการรุกรานด้วยกองกำลังติดอาวุธ คณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจบีบบังคับด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งทางการทูต เศรษฐกิจ และการแทรกแซงทางทหาร เพื่อให้การปะทะกันยุติลง หลังมีข้อตกลงหยุดยิง อาจมีการส่งผู้รักษาสันติภาพเข้าไปยังพื้นที่ประเทศที่ขัดแย้งกันในกรณีที่ประเทศดังกล่าวยินยอม บางกรณีคณะมนตรีความมั่นคงอาจให้กำลังรบของประเทศสมาชิกเข้าแทรกแซงแต่ไม่ได้อยู่ในบังคับบัญชาของสหประชาชาติ



สิทธิมนุษยชน
เป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นสาเหตุของความขัดแย้ง สหประชาชาติจึงได้จัดทำปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2491 โดยมีจุดมุ่งหมายปกป้องพลเมืองให้รอดพ้นจากการถูกรังแก
ปฏิญญาสากลระบุว่า "สิทธิมนุษยชนเป็นพื้นฐานแห่งเสรีภาพ ความยุติธรรม และสันติภาพในโลก" ประเทศที่ลงนามในปฏิญญานี้มีพันธะที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงโดยให้สิทธิแก่สหประชาชาติในการควบคุมตรวจสอบว่า รัฐบาลของแต่ละประเทศได้เคารพในสิทธิมนุษยชนของพลเมืองหรือไม่
ปฏิญญาสากลกล่าวว่า ประชาชนทุกคนมีเสรีภาพ ไม่ควรถูกเลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากเชื้อชาติ ภาษา เพศ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง ความร่ำรวยหรือทรัพย์สิน มีอิสรภาพจากการตกเป็นทาส จากการถูกทรมาน ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน มีอิสรภาพและสิทธิที่จะได้การพิจารณาคดีในศาลอย่างยุติธรรม เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การนับถือศาสนา และการแสดงออก สิทธิที่ได้รับการศึกษา มีมาตรฐานการครองชีพอย่างเพียงพอ รวมทั้งการมีสุขภาพอนามัยดี มีที่อยู่อาศัยและอาหารเพียงพอ มีสิทธิในการทำงาน จัดตั้ง และเข้าร่วมในสหภาพแรงงาน



สมาชิก




ปัจจุบัน (มีนาคม 2550) สหประชาชาติมีสมาชิก 192 ประเทศ ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิก เช่น สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) หลังจากโอนที่นั่งให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อ พ.ศ. 2514 สมาชิกล่าสุดคือประเทศมอนเตเนโกร เข้าเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2549
ระบบสหประชาชาติ
สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ
คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
คณะมนตรีภาวะทรัสตีแห่งสหประชาชาติ
สำนักงานเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
องค์กร กองทุน หน่วยงาน

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ( Food and Agriculture Organization - FAO) เป็นองค์กรชำนาญพิเศษที่ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2488 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐาน การดำรงชีวิตและการโภชนาการ ปรับปรุงให้มีการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และยกระดับ ความเป็นอยู่ของชาวชนบทให้ดีขึ้น การก่อตั้งในช่วงแรกมีสมาชิก 42 ประเทศ และเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2490 ประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 49 ปัจจุบัน FAO มีสมาชิกทั้งสิ้น 183 ประเทศ และ 1 องค์กร และยังคงมีประเทศที่ขอเข้าเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบัน Mr.Jacques Diuof ชาวเซเนกัล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ FAO มีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี
นอกจากนี้ยังมีสำนักงานประจำอยู่ในภูมิภาคต่างๆของโลกอีก 5 แห่ง ได้แก่ (1) Afica (RAF) ตั้งอยู่ที่ Accra,Ghana (2) Asia and thePacific (RAP) ตั้งอยู่ที่ Bangkok ,Thailand (3) Europe (RE U) ตั้งอยู่ที่ Rome,Italy (4) Latin America and the Caribbran (RLC) ตั้งอยู่ที่ Santiago ,Chili (5) Near East (RNE) ตั้งอยู่ที่ Cairo , Egypt
องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (อังกฤษ: International Civil Aviation Organization - ICAO) เป็นองค์การที่จัดตั้งขึ้นเพื่อวางระเบียบข้อบังคับ สำหรับกิจกรรมการบินระหว่างประเทศระหว่างชาติ เป็นหน่วยงานชำนาญพิเศษของสหประชาชาติ โครงการเร่งพัฒนาการบินพลเรือนนี้ เริ่มในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการจัดตั้งคณะกรรมการเดินอากาศระหว่างประเทศ (International commission for Air Navigation - ICAN) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ.1947
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization - ILO)
การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด (UNCTAD - United Nations Conference on Trade and Development) ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2507 เพื่อเป็นองค์กรถาวรระหว่างรัฐบาล ที่เป็นเครื่องมือ;หลักของสหประชาชาติที่จัดการด้านการค้า การลงทุน และการพัฒนาโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้า การลงทุน และการพัฒนา และช่วยเหลือประเทศเหล่านั้นในการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลก ในพื้นฐานแห่งความเท่าเทียม ปัจจุบัน อังค์ถัดมีประเทศสมาชิก 191 ประเทศ และมีสำนักงานใหญ่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อังค์ถัดมีเจ้าหน้าที่ประจำ 400 คนและมีงบประมาณรายปีประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีงบเพิ่มเติมช่วยเหลือด้านเทคนิคอีก 25 ล้านเหรียญสหรัฐ เลขาธิการคนปัจจุบัน คือ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548
UNDCP
สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Program - UNDP) มีสำนักงานใหญ่ที่ เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นองค์การพหุภาคี เพื่อช่วยเหลือด้านการพัฒนา และเป็นหน่วยงานสำคัญในการประสานงานความช่วยเหลือในด้านการพัฒนาของสหประชาชาติ โดยเริ่มจากการขยายการให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ แก่ประเทศกำลังพัฒนา ด้วยหลักการดำเนินการแบบสากลและเป็นกลางในทางการเมือง ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ๆสำคัญๆ มีสมาชิก 170 ประเทศ เพื่อร่วมมือในการวางแผน และดำเนินโครงการในด้านการเกษตร อุตสาหกรรม การศึกษา และสิ่งแวดล้อม และในปีนี้มหามงคลอย่างยิ่งที่
องค์การสิ่งแวดล้อมโลก (United Nations Environment Programme - UNEP) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ก่อตั้งเมื่อปี 1972 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพื่อสำรวจ และประเมินแนวโน้มที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ตลอดจนเสริมสร้างการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างชาญฉลาด ผ่านสถาบันและองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการัฒนาที่ยั่งยืน

ยูเนสโก หรือ องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization - UNESCO) องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ ยูเนสโก (UNESCO) เป็นองค์การชำนัญพิเศษองค์การหนึ่งของสหประชาชาติ ก่อตั้งโดยได้มีการลงนามในธรรมนูญขององค์การ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488 และต่อมาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศสมาชิกก่อตั้ง 20 ประเทศ ได้ร่วมมือกันให้สัตยาบันธรรมนูญองค์การ ซึ่งเริ่มด้วยข้อความที่ว่า "สงครามเกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์ ดังนั้นจึงต้องสร้างความหวงแหนสันติภาพ ให้เกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์ด้วย" นอกจากนี้ ธรรมนูญยูเนสโกยังบ่งชี้ไว้ด้วยว่า สันติภาพที่เกิดจากการตกลงทางการเมือง ทางเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ย่อมไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่แท้จริงและยืนนาน จากประเทศชาติต่างๆ ในโลก สันติภาพจะต้องวางรากฐานอยู่บนความร่วมมือทางภูมิปัญญา และจิตสำนึกของมนุษยชาติ. ดังนั้นองค์การยูเนสโกจึงมุ่งเน้นการส่งเสริมสันติภาพ ด้วยการส่งเสริมความร่วมมือของนานาชาติ ด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม เพื่อให้ทั่วโลกเคารพในความยุติธรรม กฎหมาย สิทธิ และเสรีภาพ ที่มนุษย์พึงมี โดยไม่ถือเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา ตามกฎบัตรสหประชาชาติ. ยูเนสโกมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ปัจจุบัน (มีนาคม พ.ศ. 2548) ยูเนสโกมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 191 ประเทศ. ประเทศไทยเข้าเป็นรัฐสมาชิกขององค์การยูเนสโก เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2492 (ลำดับที่ 49).โดยปกติ ยูเนสโกจะใช้ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เป็นภาษาทางการ แต่ในระหว่างการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก และการประชุมคณะกรรมการบริหารของยูเนสโก จะใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องถึง 6 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเชีย อาหรับ สเปน และจีน
การดำเนินงานของยูเนสโกนั้น จะปรากฏในรูปของการประชุมสมัยสามัญ ซึ่งมีทุกๆ 2 ปี. โดยคณะกรรมการประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม จำนวน 58 คน ที่เลือกมาจากผู้แทนของประเทศสมาชิก. กรรมการจะอยู่ในวาระ 4 ปี โดยจัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่ ครึ่งหนึ่งทุก 2 ปี. ผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สูงสุดขององค์การ จะอยู่ในวาระ 6 ปี.
ยูเนสโก ได้จัดให้มีสำนักงานส่วนภูมิภาค และสำนักงานย่อยประจำพื้นที่ เพื่อให้ยูเนสโก ประสานงานกับประเทศต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด แต่ละประเทศสมาชิกจะจัดให้มีสำนักผู้แทนถาวรประจำยูเนสโก และสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยยูเนสโกของประเทศนั้นๆ เพื่อดำเนินงานในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับขอบข่ายงานของยูเนสโกโดยเฉพาะ
กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ( United Nations Population Fund) เป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้านการให้ความช่วยเหลือ แก่ประเทศที่กำลังพัฒนาในการแก้ปัญหาด้านประชากร ก่อตั้งขึ้นในปี 1969 (พ.ศ. 2512) ภายใต้ชื่อ "กองทุนสหประชาชาติเพื่อกิจการด้านประชากร" (United Nations Fund for Population Activities) ต่อมาในปี 1987 (พ.ศ. 2530) สภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติได้มีมติเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ โดยยังคงใช้ชื่อย่อเดิม และถือให้วันที่ 11 กรกฎาคมของทุกปีเป็นวันประชากรโลก
UNHCR
UN-HABITAT
UN Water

ยูนิเซฟ หรือ กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (United Nations Children's Fund - UNICEF) เป็นหน่วยงานของสหประชาชาติเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม, พัฒนาการ, สุขภาพรวมถึงความเป็นอยู่ของเด็กและแม่ในประเทศกำลังพัฒนา ก่อตั้งโดยสมัชชาสามัญแห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2489 ด้วยชื่อในขณะนั้นว่า United Nations International Children's Emergency Fund หรือ กองทุนฉุกเฉินสำหรับเด็กแห่งสหประชาชาติ
UNRWA

สหภาพสากลไปรษณีย์ ( Universal Postal Union - UPU) เป็นองค์การระหว่างประเทศ ทำหน้าที่ประสานงานนโยบายการไปรษณีย์ระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งประเทศสมาชิกแต่ละประเทศตกลงในนโยบายจัดการไปรษณีย์ภัณฑ์ระหว่างประเทศ
ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2428 หลังจากได้จัดตั้งกรมไปรษณีย์และให้บริการประมาณสองปี ทำให้กรมไปรษณีย์สามารถให้บริการจดหมายระหว่างต่างประเทศได้ ซึ่งก่อนหน้านั้นจดหมายไปประเทศต้องส่งผ่านทางกงสุล เช่นกงสุลอังกฤษ หรือผ่านบริษัทเดินเรือของเอกชน ในโอกาสนี้กรมไปรษณีย์ก็ได้จัดพิมพ์แสตมป์ชุดที่สอง แทนแสตมป์ชุดที่หนึ่ง หรือชุดโสฬศ โดยเพิ่มชื่อประเทศและราคาบนดวงแสตมป์เป็นภาษาอังกฤษตามข้อบังคับของสหภาพสากลไปรษณีย์
WFP

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization - WHO) เป็นหน่วยงานระหว่างประเทศ ในสังกัดสหประชาชาติ ทำหน้าที่ดูแลประสานงานงานด้านสาธารณสุข. ก่อตั้งเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2491 (ค.ศ. 1948) สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์


วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2552

+ กางเกงขาเดฟ +










เมื่อนานมาแล้ว กางเกงขาเดฟเข้ามาในหมู่วัยรุ่น แต่ยังไม่แพร่หลายมากมายนัก ส่วนใหญ่จะเป็น เด็กอาชีวะ เด็กอาร์ท(ติส)ที่นิยมกัน แต่ขาเดฟ ก็ค่อยๆขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น พร้อมกับคำว่าเด็กแนว จนบางคนหลงเข้าใจผิดว่า เด็กแนวต้องใส่เดฟ
กางเกงขาเดฟ เป็นทรงกางเกงที่ใส่แล้วดูทะมัดทะแมง คล่องแคล่ว และ ไม่ลุ่มล่าม สามารถใส่กับเสื้อได้หลากหลายสไตล์ คล้ายๆกับกางเกง ยีนส์ (เว้นขาเดฟ กับเสื้อตัวใหญ่ๆ)กางเกงขาเดฟจะเด่นมาก ถ้าเป็นผ้าที่มีสีสดๆ เช่น แดง,เขียว,เหลือง ยิ่งใส่คู่กับรองเท้าสีเจ็บๆ รับรอง คุณคือ จุดศูนย์รวม ของเป้าสายตาหากต้องการจะใส่ ไม่ควรเลือกที่เล็กเกินไป เพราะ กางเกงจะรัดจนไม่น่าดู 'ถ้าขาใหญ่เกิน ก็อย่าใส่เลยจะดีกว่า' หรือจะเลือกเป็น ยีนส์ขาเดฟก็เท่ไปอีกแบบจริงๆขาเดฟ เป็นแฟชั่นย้อนยุค ที่ใส่กันมาตั้งแต่รุ่นลุง แล้ววนกลับมาอีกครั้ง ในรุ่นสมัยนี้ขาเดฟจะขึ้นมาก หากผู้สวมใส่ เอาเสื้อไว้ในกางเกง และ คาดเข็มขัดสีที่ตัดกัน รองเท้าผ้าใบ "ดาวทุกดวง" (all star) ดูขึ้นเป็นพิเศษ
เมื่ออยู่คู่กับขาเดฟส่วนข้อเสียของทรงขาเดฟคือ
- กระเป๋ากางเกงใส่ของไม่ค่อยได้- บางคนที่ไม่ชอบอึดอัด อาจรู้สึกรำคาญที่ต้องใส่
- ยกขา ก้าวยาวๆ หรือ ก้าวขึ้นบันไดลำบาก
- ใส่ไม่เข้า กับเสื้อตัวใหญ่

วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2552

~ LE SANG ~





Le sang est un tissu liquide formé de populations cellulaires libres, proche du tissu conjonctif et présent chez la plupart des animaux évolués.
Ce
liquide sert à diffuser l’oxygène et les éléments nutritifs nécessaires aux processus vitaux de tous les tissus du corps, et à évacuer les déchets tels que le dioxyde de carbone ou les déchets azotés. Il sert également à amener aux tissus les cellules et les molécules du système immunitaire, et à diffuser les hormones dans tout l’organisme.
C’est la
moelle osseuse qui produit les cellules sanguines au cours d’un processus appelé hématopoièse.
Chez les
vertébrés, le sang est de couleur rouge. Le sang devient rouge clair lors de l’oxygénation dans les poumons, puis il circule dans les artères. Il devient ensuite rouge foncé après avoir perdu son dioxygène au profit des tissus. En observant bien des veines sur des peaux claires, on remarque qu’il paraît bleu. La peau agit comme un filtre, ne laissant passer que le bleu, mais celui-ci est bien rouge, même à l’intérieur des veines.
Le sang est mis en mouvement par le
cœur qui permet sa circulation dans tout l’organisme. Il passe par les poumons pour se charger en dioxygène et évacuer le dioxyde de carbone (petite circulation), et ensuite circule à travers le corps via les vaisseaux sanguins (grande circulation). Il libère son oxygène et prend en charge le dioxyde de carbone au niveau des capillaires sanguins qui sont les plus petits vaisseaux sanguins de l’organisme. Dans son état désoxygéné, sa couleur rouge est moins brillante (comme dans le cas du sang veineux périphérique, par exemple).
Le sang enlève aussi les poisons et les produits de déchets qui seront traités par le
foie ou les reins, qui vont les évacuer vers l’extérieur sous forme d’urine.

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

... + Manchester United + ...









สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Manchester United Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ มีสนามเหย้าคือโอลด์แทรฟฟอร์ดในเมืองแมนเชสเตอร์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสโมสรหนึ่ง โดยชนะเลิศแชมป์ลีก 17 ครั้ง (เอฟเอ พรีเมียร์ลีก/ดิวิชัน 1) ชนะเอฟเอคัพ 11 ครั้ง ลีกคัพ 2 ครั้ง ยูโรเปี้ยนคัพ/ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 ครั้ง และชนะ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ อินเตอร์เนชันแนลคัพ และ ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ อย่างละ 1 ครั้ง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรกีฬาที่ได้รับความนิยมสูง โดยมีผู้สนับสนุนถึง 50 ล้านคนทั่วโลก โดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีสถิติผู้เข้าชมมากที่สุดในฟุตบอลอังกฤษตลอด 34 ฤดูกาล ยกเว้นในฤดูกาล 1987-89 ที่ปรับปรุงสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรหนึ่งในกลุ่มจี-14ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2534 สโมสรได้ดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทจำกัดมหาชน อย่างไรก็ตาม ในปีพ.ศ. 2548 มัลคอล์ม เกลเซอร์ได้เทคโอเวอร์แบบไม่เป็นมิตรเป็นผลสำเร็จ และนำสโมสรออกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน


สโมสรในช่วงแรก (1878-1945)
สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก่อตั้งโดยกลุ่มพนักงานของสถานีรถไฟเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อปี 1878 ในชื่อ นิวตันฮีธ (แลนแคเชียร์ แอนด์ ยอร์ดเชียร์เรลเวย์) ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเหลือเพียง นิวตันฮีธ ได้เป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมฟุตบอลในตอนนั้น ในปี 1889 และยังได้เข้าเล่นในฟุตบอลลีก 1892ในปี 1902 สโมสรได้ประสบปัญหาทางด้านการเงิน เจ.เอช.เดวีส์ ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาการเงินให้แล้วเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และยังเปลี่ยนสีประจำสโมสร จากสีเขียว-ทอง มาเป็นแดง-ขาว ซึ่งสีแดง-ขาวนี้ได้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน ภายใต้ความช่วยเหลือของเดวีส์นี้ สโมสรได้แชมป์ฟุตบอลลีกสมัยแรกในปี 1908 และได้ย้ายสนามจาก แบงก์ โร้ด ไปยังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี 1910 จนถึงปัจจุบันทีมได้มีปัญหาอีกครั้งระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งถึงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดถูกทิ้งระเบิดจนใช้การไม่ได้ จึงต้องมีการไปขอเช่าสนาม เมนโรดของคู่ปรับร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ซิตี้ โดยในช่วงนั้นทีมมีหนี้อยู่ 70,000 ปอนด์


ยุคของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (1986-ปัจจุบัน)
อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้เข้ามาคุมทีมต่อ โดยในฤดูกาลแรกสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 11 แต่ในปีต่อมาก็ได้อันดับสองโดยไบรอัน แมคแคลร์ทำประตูได้ถึง 21 ประตู เป็นคนแรกของทีมหลังจากที่จอร์จ เบสต์เคยทำได้มาก่อนหน้านี้
ในปี 1989 เฟอร์กูสันเกิดความยากลำบากในการคุมทีมขึ้น เนื่องจากตัวผู้เล่นหลายตัวที่เขานำเข้ามาในทีมไม่เป็นที่พอใจของแฟนบอล มีข่าวออกมาว่าสโมสรจะปลดเฟอร์กี้ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมในช่วงต้นปี 1990 แต่การชนะนอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ในรอบสาม ของเอฟเอ คัพ ก็ทำให้เขาสามารถคุมทีมต่อไปได้ จนคว้าแชมป์เอฟเอ คัพได้ในปีนั้น เป็นแชมป์แรกให้กับเขาในการคุมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฤดูกาล 1990-91 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ โดยการเอาชนะบาร์เซโลนา จาก
สเปน ในนัดชิงชนะเลิศ แต่ปีต่อมาทีมทำผลงานไม่ดีนักในพรีเมียร์ลีก สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในลอนดอนเมื่อปี 1991 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 18 ล้านปอนด์ จากนั้น สโมสรต้องเปิดเผยข้อมูลการเงินทั้งหมดสู่สาธารณะ
เอริค คันโตนาย้ายจากลีดส์ ยูไนเต็ดมาร่วมทีมเมื่อปี 1992 ส่งผลต่อความสำเร็จของทีมเป็นอย่างมาก ทำให้ทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนั้นทันที ซึ่งนับเป็นแชมป์ลีกหนแรกในรอบ 26 ปี นับจากที่ได้มาครั้งล่าสุดในปี 1967 ปีต่อมา ทีมได้ดับเบิลแชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่ในปี 1994 นั้นเอง แมตต์ บัสบี้ ตำนานกุนซือของได้เสียชีวิตลงในวันที่ 20 มกราคม
ฤดูกาล 1994-95 คันโตนาถูก
สมาคมฟุตบอลอังกฤษลงโทษห้ามแข่งถึง 8 เดือน หลังจากที่ไปกระโดดถีบใส่แฟนบอลคริสตัล พาเลซ ปีนั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้รองแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพ เฟอร์กูสันได้กระทำสิ่งที่ขัดใจแฟนบอลของทีมอีกครั้ง ด้วยการขายนักเตะสำคัญของทีมและดันนักเตะจากทีมเยาวชนขึ้นมาเล่นแทน แต่ปีนั้นทีมก็สามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อย่างน่ายกย่อง โดยเป็นทีมแรกของเกาะอังกฤษ ที่สามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้เป็นสมัยที่สองซึ่งเว้นจากครั้งแรกที่ได้ดับเบิ้ลแชม์ในปี 1994 เพียงปีเดียว และสามารถที่จะลบคำสบประมาทที่ถูกปรามาสเอาไว้ว่าไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จใดๆได้ จากการผลักดันเด็กเยาวชนของทีมให้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ สโมสรคว้าแชมป์ลีกอีกครั้งในปี 1997 จากนั้น เอริค คันโตนาได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลด้วยวัยเพียง 30 ปีซึ่งเร็วกว่านักเตะคนอื่นๆ มาก ฤดูกาลทีมยังเริ่มต้นการแข่งขันได้ดี แต่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมามากจนทำให้จบฤดูกาลได้เพียงอันดับสองเท่านั้น
ปี 1998-99 ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จมาที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเป็นทีมแรกของอังกฤษที่คว้าทริปเปิลแชมป์ ซึ่งประกอบด้วยพรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ และยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีกได้ในฤดูกาลเดียวกันอย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดยในนาทีสุดท้ายของเกมนั้น ทีมยังตามหลังบาเยิร์น มิวนิกอยู่ 1-0 แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาทีนั้น ทีมสามารถทำได้ถึงสองประตูพลิกกลับมาชนะ 2-1 ได้อย่างเหลือเชื่อจาก
เท็ดดี้ เชอริงแฮม และ "เพชรฆาตหน้าทารก" โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
จากการคว้าสามแชมป์ ทำให้อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้รับการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากสมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบถที่ 2 เป็นท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพื่อตอบแทนผลงานที่สามารถสร้างชื่อเสียงและเกียรติประวัติให้แก่ประเทศ ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ได้รับตำแหน่งท่านเซอร์คนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยผู้ที่ได้รับคนแรกคือ เซอร์แมตต์ บัสบี้ คนที่สองคือ เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
หลังจากคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา ในฤดูกาล 1999-2000 ถึง 2000-2001 ยูไนเต็ดสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการฟุตบอลอังกฤษโดยการแชมป์ลีก 3 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งเป็นทีมทึ่ 2 ที่ทำได้ (ทีมที่ทำได้ก่อนหน้าคือลิเวอร์พูล) และในช่วงนั้นยูไนเต็ดได้คว้าตัวนักเตะสำคัญคือ กองหน้าคนใหม่
รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็น 1 ในตำนานสโมสรที่ลงสนาม 220 นัด และยิงได้ถึง 150 ประตู และริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังที่มีค่าตัวสูงถึง 30 ล้านปอนด์
แต่อย่างไรก็ดี ในปี 2001-2006 ยูไนเต็ดได้ประสบปัญหาหลายอย่าง อย่างแรกคือสโมสรไม่สามารถหาผู้รักษาประตูที่เป็นตัวตายตัวแทนของ
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ได้ สโมสรได้เปลี่ยนผู้รักษาประตูมือ 1 หลายคน ไม่ว่าจะเป็นมาร์ค บอสนิช, ไรมอนด์ ฟาน เดอ ฮาว, มัสซิโม่ ตาอิบี้, พอล ราชุบก้า, แอนดี้ กอแร่ม, ฟาเบียง บาร์กเตซ, ทิม โฮเวิร์ด, รอย คาโรล, และ ริคาร์โด้ โลเปซ และปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือมีผู้เล่นที่เป็นกำลังหลักจำนวนมากได้ออกจากสโมสรไม่ว่าจะเป็นยาป สตัม, เดวิด เบ็คแฮม, รอย คีน กัปตันทีม, หรือแม้กระทั่งรุด ฟาน นิสเตลรอย โดยมีสาเหตุมาจากการมีปัญหากับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทั้งสิ้น ในช่วง 5 ปีนี้ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกเพียงครั้งเดียว (ฤดูกาล 2002-2003) และได้ถ้วยรางวัลอื่นๆ อีก 2 รายการ คือ เอฟเอคัพ (2003-2004) และ ลีกคัพ (2005-2006) เท่านั้น โดยใน 2 ฤดูกาลหลัง เชลซีได้เข้ามามีบทบาทเด่นในฟุตบอลลีกเนื่องมาจากการเข้าเทคโอเวอร์สโมสรของ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ทำให้เชลซีมีงบประมาณซื้อตัวผู้เล่นไม่จำกัดและคว้าแชมป์ลีก 2 ปีติดต่อกัน
ต่อมาในปี 2006-2008 อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้ผ่าตัดทีมใหม่อีกครั้ง โดยมีแกรี่ เนวิลล์ เป็นกัปตันทีมคนใหม่ที่รับตำแหน่ง
กัปตันแทน รอย คีน 11 ผู้เล่นของยูไนเต็ดมีความลงตัวกว่าปีที่ผ่านๆ มา ผู้เล่นที่โดดเด่นมี เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติฮอลแลนด์ที่เป็นตัวแทนของ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล และกองหลังมีเนมานย่า วิดิช ผู้เล่นยอดเยี่ยมของเซอร์เบียแอนด์มอนเตเนโกร และริโอ เฟอร์ดินานด์กองหลังค่าตัว 30 ล้านปอนด์เป็นแกนกลาง, ปีกซ้ายขวามี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกดาวรุ่งโปรตุเกสที่สืบทอดเสื้อหมายเลข 7 ต่อจากเดวิด เบ็คแฮม และนานี่ ปีกดาวรุ่งผู้เป็นตัวแทนของไรอัน กิ๊กส์ และกองหน้ามี เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงประตูที่มีค่าตัวถึง 27 ล้านปอนด์เป็นกำลังหลัก อเล็กซ์เฟอร์กูสันได้กล่าวว่าทีมชุดนี้เป็นชุดที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ชุดปี 1999, ซึ่งทีมชุดนี้สามารถนำแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไล่ล่าความสำเร็จอีกครั้ง โดยการคว้าแชมป์ลีก 2 ปีติดต่อกันในปี 2006-2008 และการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้งในฤดูกาล 2007-2008


การเทคโอเวอร์ของมัลคอล์ม เกลเซอร์
ในวันที่
12 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 (2005) มัลคอล์ม เกลเซอร์ นักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกาสามารถครอบครองในสโมสรเกินร้อยละ 70 หลังจากบรรลุข้อตกลงซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นเจ. พี. แมกมานัส และจอห์น แมกเนียร์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ร้อยละ 28.7 จาก และแฮร์รี่ ดอบสัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับสามชาวสกอต ในวันที่ 16 พฤษภาคม เกลเซอร์ครอบครองหุ้นเกินร้อยละ 75 ซึ่งทำให้เขาสามารถนำสโมสรออกจากตลาดหลักทรัพย์ได้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถูกนำออกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนในวันที่ 22 มิถุนายน เกลเซอร์สามารถครอบครองหุ้นร้อยละ 98 เป็นผลสำเร็จในวันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งเกินระดับที่กำหนดให้บังคับซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ มัลคอล์ม เกลเซอร์แต่งตั้งลูกชายสามคนของเขาเข้าในคณะกรรมการบริหาร ผู้สนับสนุนจำนวนมากไม่พอใจการเข้าครอบครองกิจการของเกลเซอร์






















วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2552

>>> TV. *




Television (TV) is a widely used telecommunication medium for transmitting and receiving moving images, either monochromatic ("black and white") or color, usually accompanied by sound. "Television" may also refer specifically to a television set, television programming or television transmission. The word is derived from mixed Latin and Greek roots, meaning "far sight": Greek tele (τῆλε), far, and Latin visio, sight (from video, vis- to see, or to view in the first person).
Commercially available since the late 1930s, the television set has become a common communications receiver in homes, businesses and institutions, particularly as a source of entertainment and news. Since the 1970s the availability of video cassettes, laserdiscs, DVDs and now Blu-ray discs, have resulted in the television set frequently being used for viewing recorded as well as broadcast material.
A standard television set comprises multiple internal
electronic circuits, including those for tuning and decoding broadcast signals. A display device which lacks a tuner is properly called a monitor, rather than a television. A television system may use different technical standards such as digital television (DTV) and high-definition television (HDTV). Television systems are also used for surveillance, industrial process control, and guiding of weapons, in places where direct observation is difficult or dangerous.








+ FRIENDS +

คุณเชื่อในพรหมลิขิตไหม ?

ถ้าไม่ . . . แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้เรามาพบกับคนหลายคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ถ้าไม่ . . . แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้เราถูกชะตาจนเรียกคนๆ นั้นว่า " เพื่อน "

เพื่อน . . . คนที่ครั้งหนึ่งก็เป็นได้แค่คนแปลกหน้า
เวลาผ่าน เวลา คนแปลกหน้าคนนั้นก็กลับกลายมาเป็นคนที่เรา "ไว้ใจ"
เพื่อน . . . คนที่พร้อมอยู่กับเราเสมอๆ ไม่ว่า สุข ทุกข์ เหงา เศร้า
เพื่อน . . . คนที่พร้อมแชร์ความรู้สึกต่างๆโดยไม่เคยเอ่ยปากว่า "ถ้าทำอย่างนั้นแล้วฉันจะได้อะไร"
เพื่อน . . . คนที่ไม่เคยสนใจว่าเราจะหน้าตาดี มีสกุล ร่ำรวย ยากจน สูง ต่ำ ดำ ขาว หรือไม่
เพื่อน . . . คนที่ไม่เคยเสแสร้ง แกล้งทำ
แต่ . . . เพื่อนตายหายากเหลือเกิน

เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่า . . . คนๆ นี้เป็นเพื่อนตายของเราหรือไม่
เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่า . . . คนๆ นี้ เป็นคนที่พร้อมจะเคียงข้างเราเสมอไปไหม
เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่า . . . คนๆ นี้จริงใจกับเราแค่ไหน

ทั้งหมดนี้ เราใช้ "ตา" มองไม่เห็น
แต่ทั้งหมดนี้เราใช้ "ใจ" มองเห็นได้
เมื่อบทความ ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ คุณล่ะ?

ใช้ "ตา" มองเพื่อน หรือใช้ "ใจ" มองเพื่อน
เราบอกไม่ได้ว่าคนๆ ไหนดี ไม่ดี จนกว่าเราจะมีโอกาส รู้จักกับคนๆ นั้น
แล้วใช้ใจของเราสัมผัส . . . การคบใครสักคน คบเพียงกายก็ไร้ประโยชน์
แต่การคบใครสักคน จำเป็นต้องคบกันด้วย "ใจ"

วันนี้ . . . คุณใช้อะไร คบเพื่อนของคุณ
อย่าบอกนะว่า . . . คุณก็เป็นคนที่คบเพื่อนแค่ "ตา"
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็คงเป็นคนที่ไม่น่าคบคนหนึ่ง
อย่าลืมบอกรัก " เพื่อน "
หรือมองเพื่อนด้วยใจ . . . ด้วยความรักนะคะ

แล้วคุณจะเจอเพื่อนแท้ และรักคุณ

... นิยามของ “ รักแท้ ” ...




ต้องมีความรู้สึกได้สัมผัสกับความสุขร่วมกับคนๆ นั้น เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมีความสุขมาก ไม่เคยเบื่อ ที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ
ต้องให้ความเคารพนับถือคนๆ นั้น
ต้องรู้สึกว่าคนๆ นั้นเป็นที่พึ่งได้ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นในชีวิต ก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เคียงข้าง เพื่อคอยช่วยเหลือ
ต้องเชื่อมั่นว่าถ้ามีปัญหาใดๆเกิดขึ้น ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน สัมพันธภาพก็ยังคงดำเนินต่อไป เพราะคนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ถ้ารู้จักอภัยกันมันก็อยู่กันทน
ต้องเข้าถึงความต้องการ อารมณ์ และความรู้สึกของคนๆ นั้น อย่างถ้ารู้ว่าชอบจะอยู่คนเดียวตามลำพังบ้าง ก็ควรเปิดโอกาสได้อยู่กับตัวเองด้วยความเต็มใจ
ต้องมีความรู้สึกต้องตาต้องใจในสรีระของคนๆ นั้น
ต้องรู้สึกว่าเราสามารถจะพูดคุยกับคนๆ นั้นได้ทุกเรื่อง อย่างเปิดอก
ต้องรู้สึกว่าคนๆ นั้นเป็นของมีค่าในมือ ถ้าไม่มีเขาสักคนชีวิตของเราก็สูญของมีค่าไป
ต้องรู้สึกเต็มใจที่มีส่วนร่วมกับคนๆ นั้นในหลายๆ ด้าน
ต้องรู้สึกอยากมีส่วนร่วมอยากรับฟังทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ดี หรือเป็นสิ่งที่ทุกข์